JasonMyFitness

คราวที่แล้วรู้สาเหตุกันไปแล้วว่าทำไมคุณผู้หญิงทั้งหลายถึงชอบกินเค้กกันนัก แต่ไม่ว่าจะเค้กหรือของหวานอื่นๆ ก็กินแล้วน้ำหนักพุ่งปรี๊ดทุกที
แต่จะให้อดใจไม่กินเลย มันยากไปอ่ะ แล้วจะทำไงดีล่ะ?
ลองมาดู 7 วิธีนี้กัน ง่ายมาก กินได้แบบไม่ต้องกลัวอ้วนเลยค่ะ

 

 
อยากกินขนมหรือของหวานก็กินได้ ไม่ต้องอดให้ทรมานขนาดนั้น แต่ควรจะกินให้พอรู้รสก็พอค่ะ อย่างชานมไข่มุก 1 แก้ว เราก็สั่งแบบหวานน้อยแทน อย่าลืมนะ กินแค่ให้พอรู้รส หักห้ามใจสักหน่อย ไม่ต้องถึงกับกินหมดแก้ว แค่นี้ก็ไม่อ้วนแล้ว (แต่อย่ากินชานมไข่มุกทุกวันนะ ต่อให้หวานน้อยก็เถอะ จะหาว่าไม่เตือน )
 
 
 

ก่อนที่จะหยิบขนม หรือของหวานแล้วไปจ่ายเงิน ลองพลิกดูแคลอรีซะหน่อยสิ เลือกดูขนมที่มีปริมาณน้ำตาลและไขมันเป็นส่วนประกอบน้อยๆ ลองเปรียบเทียบดูค่ะ และนึกไว้เสมอว่า “ฉันจะต้องไม่อ้วน!”

 
 

ขนมหวานบางอย่างเราก็ไม่รู้หรอกว่ากี่แคลอรี อย่างเค้กหนึ่งชิ้น ครีมหนาเตอะ ก็อาจจะปาดครีมเค้กออกสักหน่อย หรือกินขนมหวานแบบไม่ต้องใส่กะทิ แค่นี้ก็ช่วยลดแคลอรีได้ 81-160 แคลอรีเลยนะ

 
งดแป้งและน้ำตาลในวันรุ่งขึ้น มื้อเช้าและกลางวันเน้นผัก 80% โปรตีน 20% ส่วนมื้อเย็นให้กินผักผลไม้สดและดื่มน้ำเปล่าทั้งวัน
 
 

เพราะทั้งชาเขียวและกาแฟจะมีกาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญพลังงาน แต่ก็ควรดื่มแบบพอดีๆ ไม่งั้นน้ำหนักพุ่งแบบไม่รู้ตัวแน่ๆ เพราะชาเขียวและกาแฟที่ดื่มจะมีทั้งแคลอรีและไขมันสูงจากนมหรือน้ำตาลที่เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย

 
วิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็รู้ แต่เริ่มทำมันยากน่ะสิ! หลังจากที่กินของหวานไปแล้ว เราควรจะออกกำลังกายด้วยเพื่อไม่ให้น้ำตาลกลายร่างเป็นไขมันสะสมอยู่ในร่างกาย ซึ่งอาจจะออกกำลังกายด้วยการคาร์ดิโอ เพื่อกำจัดไขมันออกไปซะ อย่างการเดิน การวิ่ง กระโดดเชือก เต้น ปั่นจักรยาน อย่างต่อเนื่องในเวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาที
 
 
สาวๆ หลายคนมักจะไปกินเค้ก หรือกินของหวานกับเพื่อน ที่ร้านเค้กอร่อยๆ ตามที่ต่างๆ กินเสร็จแล้วก็จะนั่งเมาท์กันยาวๆ ใช่มั้ยล่ะ? ลองเปลี่ยนดูมั้ย! เมื่อกินของหวานเสร็จแล้ว ให้ไปเดินเล่น ประมาณ 15 นาที นอกจากจะช่วยย่อยแล้ว ไขมันก็จะไม่ไปสะสมที่หน้าท้อง ต้นขาและโพกด้วย ใครไม่อยากอ้วนเผละ กินเสร็จแล้วอย่านั่งเม้าท์เพลินล่ะ
 
 

Leave a Reply